วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Hybrid Thin Client #01 (ฉบับ DIY)

          เอาล่ะครับ เมื่อพูดถึง Thin Client คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวผมก็คือ ทำไมเราต้องใช้ Thin Client คำตอบก็คือช่วยลดค่าใช้จ่ายในองค์กรณ์ นั่นเอง แหมฟังดูดีมีเหตุผล แต่เอาเข้าจริงราคา Hardware ตัว Thin Client เองก็ไม่ได้ถูกๆ ส่วน TS License ก็คิดตามจำนวน user ที่ใช้งานเหมือนเดิม สรุปแล้วก็ไม่ได้ลดค่าใช้จ่ายลงซักเท่าไหร ที่ลดได้จริงๆ คือค่าไฟกับค่าดูแลบำรุงรักษา กับความสะดวกสบายจากการดูแลควบคุมผ่าน server ได้ แต่ปัญหาที่จะตามมาก็คือถ้า Server ล่ม คราวนี้ User ก็เป็นง่อยกันหมดใช้อะไรไม่ได้เลย

          คราวนี้หากต้องการจะใช้ Thin Client ที่ลดค่า License ได้จริงๆ และใช้งานพื้นฐานได้โดยไม่ต้องต่อ Server จะใช้ตัวไหนดีล่ะ ผมก็เที่ยวควานหาแต่ก็ไม่เห็นมี จึงตัดสินใจทำ Hybrid Thin Client ขึ้นมาเองเสียเลย เอาล่ะอ่านมาถึงตรงนีแล้วหลายท่านคงอยากจะรู้ว่าทำไมถึงเรียกว่า Hybrid แล้วมันจะดีกว่า Thin Client ทั่วไปอย่างไรเราไปดูคุณสมบัติกัน

1. คุณสมบัติของ Thin Client
1.1 คุณสมบัติด้าน Hardware
Board
- Raspberry Pi 2
Memory
- Flash 8GB (Systerm 4GB + Storage 4GB)
- Ram 1 GB DDR3
I/O Port
- 4x USB 2.0
- 1x HDMI
- 1x LAN 10/100
- 1x Audio OUT 3.5"

1.2 คุณสมบัติด้าน Software
- ใช้งานพื้นฐานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับ Server
- ใช้งานได้ทั้ง Remote Desktop, Remote app, Local app พร้อมๆ กันในเวลาเดียวกัน
- เปิดไฟล์จาก Flashdrive ด้วยโปรแกรมบน Server ได้ทันที
- รองรับ RDP, VMWare, Citrix,VNC, 2XClient
- Share อุปกรณ์ USB ได้ 1 Port (เช่น all in one printer หรือ scanner)
- Share Printer ได้ 4 ตัว (ทำงานเหมือน Print Server)
- พื้นที่เก็บข้อมูลในตัวเอง 4GB
- เชื่อมต่อ File Server ได้โดยตรง
- รองรับการใช้งาน internet + flash player
- รองรับการเชื่อมต่อผ่าน WIFI

2. Mode ต่างๆ ของตัว Thin Client
ระบบที่ผมออกแบบขึ้นมาจะมีอยู่ 3 mode หลักๆ มีไว้เพื่อตอบสนองการใช้งาน Thin Client ในลักษณะที่แตกต่างกันออกไปครับ และนี่แหละจึงเป็นที่มาของคำว่า Hybrid นั่นเอง

2.1 Hybrid Mode
Hybrid Mode เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาปุ๊บ จะเจอหน้าจอดังรูปครับ โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือด้านล่างสุดเป็น panel และ menu สำหรับเปิดใช้งานโปรแกรมต่างๆ
ที่ติดตั้งอยู่บนตัว Thin Client เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นอินเทอร์เน็ต ดูรูป เป็นต้น อันนี้ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับ Server แต่อย่างใด
ถัดมาจาก panel ด้านล่าง จะเป็น panel ที่บันทึก preset สำหรับการ Remote เช้าไปใช้งาน Server ผ่าน RDP เหมือนกับ Thin Client ทั่วไปครับ ประมาณว่าเปิดเครื่องขึ้นมาเรากรอก password แล้ว connect เข้า Server ได้ทันที หรือจะเปิดโปรแกรมบนเครื่อง Thin ใช้ก็ได้ ทั้งนี้รวมไปถึง Remote app ด้วย




2.2 Desktop Mode
โหมดนี้จะตัด panel ด้านล่างออกไป ทำให้ใช้โปรแกรมบนเครื่อง Thin Client ตรงๆ ไม่ได้ จะมีเพียง panel ที่ใช้ connect เข้าใช้ remote desktop เพียงอย่างเดียว
ตรงนี้สามารถตั้ง preset ได้ไม่จำกัด หรือจะตั้งให้ connect เข้า server อันโนมัติทันทีหลังจากเปิดเครื่องเลยก็ได้



2.3 Remote App
โหมดนี้จะตัด panel ที่แสดงให้เห็น preset ออกไปครับ เหลือแต่ panel ด้านล่างปกติมีไว้เพื่อใช้งานโปรแกรมต่างๆ บนเครื่อง Thin Client เอง
หรือไม่ก็ใช้เปิด Remote app ได้เช่นกันโดยสามารถใช้งานเหมือนกับ local app เลย
โหมดนี้สำคัญมากและถือเป็นตัวชูโรงเลยครับ เพราะมันจะช่วยให้เรารันโปรแกรมที่อยู่บนเครื่อง Server ได้จาก Thin Client หลายๆ เครื่องด้วย user เดียวกัน
เช่น สามารถเปิดใช้งานโปรแกรมบัญชี EXPRESS ได้ 10 คนพร้อมกันโดยเสียค่า terminal license แค่ 1 user เท่านั้นเอง แจ่มมากๆ (บอกลา Thin Client แบบเดิมๆ ไปได้เลย)



2.4 เปิดไฟล์จาก flash drive ด้วยโปรแกรมบน Server
นี่คือตัวชูโรงอีกอย่างที่ Thin Client ทั่วไปทำไม่ได้ ด้วยความที่มันเป็น Hybrid ผมจึงออกแบบให้เราสามารถเปิดไฟล์งานข้ามจากเครื่องตัวเองไปเปิดด้วยโปรแกรมบน Server ผ่าน Remore app ได้ทันทีเลย (จากรูป ผมสามารถคลิกเปิดไฟล์ Excel ใน flash drive ด้วย Excel 2013 ได้ทันที ไม่ต้องไปเปิด app ก่อนแล้วค่อยมา open file ทีหลังให้ยุ่งยากเลย)




2.5 ใช้งานโปรแกรมพื้นฐานบน Thin Client พร้อมๆ กับ Remote Desktop ได้
แน่นอนครับโปรแกรมบน Server เราอนุญาตให้ใช้เฉพาะทำงานเท่านั้น แต่ user ก็มักจะชอบเล่นอินเทอร์เน็ต ฟังเพลง ดูรูป และอื่นๆ
ซึ่งจะให้ไปใช้ทุกอย่างผ่าน server หมดเลยก็คงไม่ดีแน่ระบบ Hybrid จึงทำมาเพื่อกรณีนี้แหละครับ ตามตัวอย่างจะเห็นได้ว่าระหว่างเปิดไฟล์งาน Excel บน server อยู่ ผมก็ยังเปิดวิทยุ online หรือเปิดเพลงฟังได้โดยโปรแกรมบนเครื่อง Thin Client เอง ไม่ต้องไปเปิดผ่าน Server ให้หนักเครื่องเลย


2.6 ล็อคโปรแกรมบางตัว และเลือก pin โปรแกรมลงบน panel ได้
จากรูป เราสามารถซ่อนโปรแกรมบางตัวที่ไม่ต้องการให้ user ใช้ได้ หรือโปรแกรมไหนใช้บ่อยๆ ก็สามารถ pin ลงบน panel ด้านล่างได้ครับ



2.7 ตั้งค่าได้หลากหลาย
ตัวนี้ตั้งค้าได้เยอะครับรองรับขนาดหน้าจอตั้งแต่ 800x600 - 1920x1080, เปลี่ยนชื่อ hostname ได้ตามต้องการ, สามารถ Remote เข้ามาแก้ปัญหาให้ user ผ่าน VNC ได้ หรือใส่ password หน้า setting เพื่อไม่ให้ user เข้ามาแก้ไขค่าต่างๆ เองได้



ปล.ตัว hardware กำลังสั่งอุปกรณ์มาประกอบอยู่ครับ ยังไม่เสร็จเป็นตัวตน ถ้าเสร็จแล้วจะอัดเป็น VDO รีวิวการใช้งานมาให้ดูกันอีกทีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น